หลวงพ่อเสือ ก็คือ ท่านพระครูอินทโมฬีศรีสังวร (นุช) อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพรหมาวาส เกจิอาจารย์อาคมขลังอีกรูปของเมืองพระรถในยุคนั้น โดย หลวงพ่อเสือ ได้ศึกษาการอ่าน-เขียนภาษาไทย-ขอม และคาถาอาคมจากท่านพระครูอินทโมฬีศรีสังวรตั้งแต่วัยหนุ่มเริ่มโตขึ้นมา แต่ท่านยังไม่บวชเป็นพระ ในวัยหนุ่มคราวท่านอายุประมาณ 16-17 นาย เสือ ได้รับจ้างนำสุราจากแหล่งผลิตสุราไปส่งตามร้านค้าในละแวกวัดหลวงพรหมาวาส โดยท่านหาบสุราที่ใส่ในกระจาดเต็มทั้งสองกระจาดด้วยไม้คาน เดินด้วยเท้าไปส่งตามร้านค้าที่สั่งสุรา ในระหว่างทางท่านได้เข้าพักเหนื่อย ที่ศาลาพักริมทาง ซึ่งในศาลามีชายกลุ่มหนึ่งประมาณ 5-6 คนนั่งอยู่ก่อน มีทั้งอายุประมาณท่านและโตกว่าท่าน อายุประมาณ 30 กว่าปี เมื่อเห็นท่านมาคนเดียวและร่างกายไม่ใหญ่โต พอท่านวางหาบที่ใส่สุราลง ชายเหล่านั้นก็ซุบซิบกันแล้วเดินมาหยิบขวดสุราในหาบไปดื่มคนละขวดสองขวด โดยมองท่านเหมือนเย้ยหยันว่า ท่านจะว่าอย่างไรหรือทำอะไรพวกเขาที่มีกันหลายคนได้ นาย เสือ ในขณะนั้นหยิบไม้คานขึ้นมาเสกเป่าด้วยอาคมที่ได้เรียนมาที่ไม้คานและที่หมัด จากนั้นได้เข้าตะลุมบอนทั้งชกทั้งไล่ตี พวกนักเลงรุ่นพี่ 5-6 คน เสียแตกกระเจิงวิ่งหนีกันไป ว่ากันว่าบางคนโดนท่านชกด้วยหมัดเสกอาคมสลบหลับอยู่ตรงศาลานั้น โดยที่ท่านไม่มีบาดแผลจากการต่อสู้เลย เหตุการณ์ในวันนั้นทำให้กลุ่มนักเลงกลุ่มนั้นแค้นเคืองท่านมาก ประกาศว่าจะต้องล้างแค้นนาย เสือ ให้ได้
ภาพงานแซยิดหลวงพ่อเสือ วัดสามกอ
ในภาพจะเห็นมีถังน้ำมนต์ขนาดใหญ่
ซึ่งเป็นที่ทราบกันว่าท่านเก่งทางน้ำมนต์มาก
และที่สำคัญพระเถราจารย์องค์ซ้ายมือ
ที่มาร่วมงานในงานแซยิด คือ
หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก
Scroll to Top